วันพุธที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2551

งานท้ายบทที่ 1

ข้อ 1 >*<

"ประเภทของคอมพิวเตอร์ "
ประเภทของคอมพิวเตอร์ มีทั้งหมด 8 ประเภท ดังต่อไปนี้



ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ (Supercomputer)





ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ (Supercomputer) เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีสมรรถนะในการทำงานสูงกว่า คอมพิวเตอร์แบบอื่น ดังนั้นจึงมีผู้เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า คอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง (High Performance Computer) คอมพิวเตอร์ประเภทนี้ สามารถคำนวนเลขที่มีจุดทศนิยม ด้วยความเร็วสูงมาก ขนาดหลายร้อยล้านจำนวนต่อวินาที งานที่ให้คอมพิวเตอร์ประเภทนี้ทำแค่ 1 วินาที ถ้าหากเอามาให้คนอย่างเราคิด อาจจะต้องใช้เวลานานกว่าร้อยปี ด้วยเหตุนี้ จึงเหมาะที่จะใช้คอมพิวเตอร์ประเภทนี้ เมื่อต้องมีการคำนวนมากๆ อย่างเช่น งานวิเคราะห์ภาพถ่าย จากดาวเทียมอุตุนิยมวิทยา หรือดาวเทียมสำรวจทรัพยากร งานวิเคราะห์พยากรณ์อากาศ งานทำแบบจำลองโมเลกุล ของสารเคมี งานวิเคราะห์โครงสร้างอาคาร ที่ซับซ้อน คอมพิวเตอร์ประเภทนี้ มีราคาค่อนข้างแพง ปัจจุบันประเทศไทย มีเครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Cray YMP ใช้ในงานวิจัย อยู่ที่
ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์สมรรถภาพสูง (HPCC) ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ ผู้ใช้เป็นนักวิจัยด้านวิศวกรรม และวิทยาศาสตร์ทั่วประเทศ
บริษัทผู้ผลิตที่เด่นๆ ได้แก่ บริษัทเครย์ รีเสิร์ซ (
Cray Research), บริษัท เอ็นอีซี (NEC) เป็นต้น




เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ (Mainframe Computer)





คอมพิวเตอร์ที่มีสมรรถนะสูงมาก แต่ยังต่ำกว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ คือปกติสามารถทำงานได้รวดเร็ว หลายสิบล้านคำสั่งต่อวินาที สำหรับสาเหตุที่ได้ชื่อว่า เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ ก็เพราะครั้งแรกที่สร้างคอมพิวเตอร์ลักษณะนี้ได้สร้างไว้บนฐานรองรับ ที่เรียกว่า คัสซี่ (Chassis) โดยมีชื่อเรียกฐานรองรับนี้ว่า เมนเฟรม นั่นเอง
เหมาะกับการใช้งาน ทั้งในด้านวิศวกรรม วิทยาศาสตร์ และธุรกิจ โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลจำนวนมากๆ เช่น งานธนาคาร ซึ่งต้องตรวจสอบบัญชีลูกค้าหลายคน งานของสำนักงานทะเบียนราษฎร์ ที่เก็บรายชื่อประชาชนประมาณ 60 ล้านคน พร้อมรายละเอียดต่างๆ งานจัดการบันทึกการส่งเงิน ของผู้ประกับตนหลายล้านคน ของสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน คอมพิวเตอร์เมนเฟรม ที่มีชื่อเสียงมาก คือ เครื่องของบริษัท IBM
ในปัจจุบัน ความนิยมใช้เครื่องเมนเฟรม ในหน่วยงานต่างๆ ได้ลดน้อยลงมาก เพราะราคาเครื่องค่อนข้างแพง การใช้งานค่อนข้างยาก และมีผู้รู้ด้านนี้ค่อนข้างน้อย สถานศึกษาที่มีเครื่องระดับนี้ไว้ใช้สอน ก็มีเพียงไม่กี่แห่ง เหตุผลสำคัญอีกประการหนึ่งคือ คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กกว่า ได้รับการพัฒนาให้มีสมรรถนะมากขึ้น จนสามารถทำงานได้เท่ากับเครื่องเมนเฟรม แต่ราคาถูกกว่า อย่างไรก็ตามเครื่องเมนเฟรม ยังคงมีความจำเป็น ในงานที่ต้องใช้ข้อมูลมากๆ พร้อมๆ กันอยู่ต่อไปอีก ทั้งนี้เพราะ เครื่องเมนเฟรมสามารถพ่วงต่อ และควบคุมอุปกรณ์รอบข้าง (Peripheral) เช่น เครื่องพิมพ์ เครื่องขับเทปแม่เหล็ก เครื่องขับจานแม่เหล็ก ฯลฯ ได้เป็นจำนวนมากในเวลาเดียวกัน
บริษัทผู้ผลิตได้แก่ บริษัทไอบีเอ็ม (
IBM), บริษัทดิจิตอล อควิปเมนต์ คอร์ปอเรชั่น (DEC - ปัจจุบันถูก Take Over โดยบริษัท HP) เป็นต้น

มินิคอมพิวเตอร์ (Minicomputer)


เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีสมรรถนะน้อยกว่าเครื่องเมนเฟรม คือทำงานได้ช้ากว่า และควบคุมอุปกรณ์รอบข้างได้น้อยกว่า อย่างไรก็ตามจุดเด่นสำคัญ ของเครื่องมินิคอมพิวเตอร์ ก็คือ ราคาย่อมเยากว่าเมนเฟรม การใช้งานก็ไม่ต้องใช้ บุคลากรมากนัก นอกจากนั้น ยังมีผู้ที่รู้วิธีใช้มากกว่าด้วย เพราะเครื่องประเภทนี้ มีใช้ตามสถานศึกษา ระดับอุดมศึกษาหลายแห่ง
มินิคอมพิวเตอร์ เหมาะกับงานหลากหลายประเภท คือใช้ได้ทั้งในงานวิศวกรรม วิทยาศาสตร์ อุตสาหกรรม เครื่องที่มีใช้ตามหน่วยงานราชการระดับกรมส่วนใหญ่ มักจะเป็นเครื่องประเภทนี้
เครื่องมินิคอมพิวเตอร์ ที่ได้รับความนิยมใช้กันมี บริษัท Digital Equipment Corporation หรือ DEC เครื่อง Unisys ของบริษัท Unisys เครื่อง NEC ของบริษัท NEC เครื่อง Nixdorf ของบริษัท Siemens-Nixdorf เครื่อง NCR ของบริษัท NCR ฯลฯ


เวิร์คสเตชัน (Workstation)



เวิร์คสเตชั่น ถูกออกแบบมาให้เป็นคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ ที่มีความสามารถในการคำนวนด้านวิศวกรรม สถาปัตยกรรม หรืองานอื่นๆ ที่เน้นการแสดงผลด้านกราฟฟิกต่าง ๆ เช่น การนำมาช่วยออกแบบภาพกราฟฟิกในโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อออกแบบชิ้นส่วนใหม่ ๆ เป็นต้น ซึ่งจากการที่ต้องทำงานกราฟฟิกที่มีความละเอียดสูง ทำให้เวิร์คสเตชั่นใช้หน่วยประมวลผลที่มีประสิทธิภาพมาก รวมทั้งมีหน่วยเก็บข้อมูลสำรองจำนวนมากด้วย มีผู้ใช้บางกลุ่มเรียกเครื่องระดับเวิร์คสเตชั่นนี้ว่า ซูเปอร์ไมโคร (supermicro) เพราะออกแบบมาให้ใช้งานแบบตั้งโต๊ะ แต่ชิปที่ใช้ทำงานนั้นแตกต่างกันมาก เนื่องจาก เวิร์คสเตชั่นส่วนมากใช้ชิปประเภท RISC (reduce instruction set computer) ซึ่งเป็นชิปที่ลดจำนวนคำสั่งที่สามารถใช้สั่งงานให้เหลือเฉพาะที่จำเป็น เพื่อให้สามารถทำงานได้ด้วยความเร็วสูง


ไมโครคอมพิวเตอร์ (Microcomputer)



เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก และใช้ทำงานคนเดียว จึงนิยมเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (Personal Computer) เป็นคอมพิวเตอร์ใช้งานที่พบได้อย่างแพร่หลาย จัดว่าเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก ทั้งระบบใช้งานครั้งล่ะคนเดียว หรือใช้งานในลักษณะเครือข่าย แบ่งได้หลายลักษณะตามขนาด เช่นเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลแบบตั้งโต๊ะ (Personal Computer) หรือแบบพกพา (Portable Computer) หรือแบ่งตามผู้ผลิต ได้แก่ เครื่องกลุ่ม IBM, IBM Compatible และแมคอินทอช (Macintosh) เป็นต้น

คอมพิวเตอร์ประเภทนี้ ที่เป็นตัวการผลักดันให้เกิด การเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ในโลกคอมพิวเตอร์ คือ ทำให้เกิดความสนใจ ในเรื่องคอมพิวเตอร ์แพร่หลายไปสู่คนทุกอาชีพ และทุกวัย อย่างเช่นในเมืองไทยนี้เอง ก็มีนายแพทย์จำนวนมาก สนใจซื้อคอมพิวเตอร์มาศึกษา จนถึงขั้นเขียนโปรแกรมขึ้นมา ช่วยงานของโรงพยาบาลได้ อดีตปลัดกระทรวงสำคัญท่านหนึ่ง ก็ใช้คอมพิวเตอร์คล่อง จนถึงขั้นสามารถใช้เก็บข้อมูลสำคัญๆ ของกระทรวง ไว้ใช้ในการบริหารงานได้ ผู้บริหารงานราชการอีกหลายท่าน ก็มีความสามารถในด้านการใช้คอมพิวเตอร์ ในระดับที่ผู้เชี่ยวชาญก็ยังต้องอาย



PDA (Personal Digital Assistant )










PDA ย่อมาจาก Personal Digital Assistant เป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์พกพาขนาดเล็กที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการจดบันทึก เก็บข้อมูล เตือนเวลานัดหมาย หรือ จัดการงานต่างๆ ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว รวมไปถึงความสามารถของการเพิ่มเติมแอพพลิเคชั่นเพื่อให้ใช้งานด้านอื่นๆได้เหมาะสมกับความต้องการยิ่งขึ้น เช่น ดูเวลารอบโลก อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ดูหนังสือพิมพ์ออนไลน์ บันทึกรายรับรายจ่าย แม้แต่ในเรื่องของความบันเทิงและมัลติมีเดีย เช่น ดูหนัง ฟังเพลง หรือ เล่นเกม ก็สามารถรวมเข้าไปอยู่ในอุปกรณ์เล็กๆนี้ได้เช่นกัน PDA นั้น ได้เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันมากขึ้น โดยเฉพาะนักธุรกิจและผู้ที่ต้องการทำงานนอกสถานที่อยู่เสมอ
บางครั้งอาจมองว่า PDA นั้นเป็นสิ่งฟุ่มเฟือย หรือเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่าถ้าจะต้องลงทุนซื้อมาใช้ แต่ในปัจจุบันนี้เครื่อง PDA ได้ถูกพัฒนาให้มีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายขึ้น การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ก็ทำได้ง่ายขึ้น การแข่งขันของผู้ผลิตเครื่อง PDA ที่มีมากขึ้นนั้น ทำให้ราคาเครื่อง PDA ลดลงมาเหลือประมาณ 10,000 – 25,000 บาท การเลือกซื้อเครื่อง PDA สักเครื่องจึงมีปัจจัยในการเลือกมากมาย




คอมพิวเตอร์เครือข่าย (Network computer)







เป็นคอมพิวเตอร์แบบใหม่ซึ่งเปลี่ยนแปลงมาจากไมโครคอมพิวเตอร์ โดยได้รับอิทธิพลมาจากแนวความคิดของอินเตอร์เนท คอมพิวเตอร์เครือข่ายหรือนิยมเรียกว่า NC จะถูก ออกแบบให้เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีราค่าต่ำ ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาน้อย ทำให้เหมาะสมกับการใช้งานปริมาณมากๆ ในองค์การขนาดใหญ่ รวมทั้งผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการเชื่อมต่อเข้าอินเตอร์เนตคอมพิวเตอร์เครือข่ายจะไม่มีหน่วยเก็บข้อมูลสำรองอยู่ในตัว การจัดเก็บข้อมูลและโปรแกรมจะอยู่ที่เครื่องศูนย์กลาง ซึ่งข้อดีคือ การเปลี่ยนรุ่น ซอฟต์แวร์ สามรถทำงานได้ง่าย สามารถทำงานจากเครื่องคอมพิวเตอร์เครือข่ายเครื่องใดก็ได้ รวมทั้งง่ายต่อการดูแลรักษาของผู้ดูแลระบบคอมพิวเตอร์



แหล่งที่มา : http://www.nitesonline.net/it/7.htm
แหล่งที่มา :
http://cptd.chandra.ac.th/selfstud/it4life/sub%20intro1.htm

วันที่สืบค้น : 25 มิถุนายน 2551





---------------------------------------------------------------------------------------------------

ข้อ 2 >0<

คอมพิวเตอร์แบบฝัง (Embeddded computer)




เป็นคอมพิวเตอร์ที่ถูกฝังไปในอุปกรณ์ ทำให้มองไม่เห็นรูปลักษณ์ภายนอกว่าเป็นคอมพิวเตอร์ นิยมใช้ในการทำงานเฉพาะด้านโดยควบคุมการทำงานบางอย่าง เช่น เตาอบไมโครเวฟ ระบบการเติมน้ำมัน นาฬิกาข้อมือ อุปกรณ์เล่นเกม เป็นต้น สำหรับประเทศไทยปัจจุบันมีซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ใช้แล้วหลายแห่ง เช่น

- ศูนย์เทคโนโลยี อิเล็คทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) มี 2 เครื่องสำหรับให้บริการมหาวิทยาลัยต่าง ๆ และหน่วยราชการต่าง ๆ

- มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มี 1 เครื่อง สำหรับให้บริการทางด้านวิชาการ งานวิจัยต่าง ๆ

- กรมอุตุนิยมวิทยา มี 1 เครื่อง ใช้ในการพยากรณ์อากาศ

ฉะนั้นสรุปได้ว่า ข้อแตกต่างระหว่างไมโครคอมพิวเตอร์กับคอมพิวเตอร์เครื่องใหญ่จะแตกต่างกันในด้านความสามารถในการเก็บข้อมูล และความเร็วในการทำงานเนื่องจาก มินิคอมพิวเตอร์และเมนเฟรมมีหน่วยความจำขนาดใหญ่เก็บข้อมูลได้ยาก และสามารถประมวลผลโปรแกรมที่มีความซับซ้อนในเวลาที่รวดเร็ว นอกจากนี้ยังสามารถประมวลผลกับโปรแกรม หลาย ๆ โปรแกรมในเวลาพร้อมกันและผู้ใช้คอมพิวเตอร์หลาย ๆ คนสามารถใช้เครื่องพร้อม ๆ กันเวลาเดียวกันได้




แหล่งที่มา : http://www.rbru.ac.th/courseware/science/4000107/lesson3/lesson3.6.html


วันที่สืบค้น : 26 มิถุนายน 2551


---------------------------------------------------------------------------------------------------

ข้อ3 - -

ข้อมูลและสารสนเทศ

ข้อมูล คือ ข้อเท็จจริงที่เป็นตัวเลข ข้อความ หรือรายละเอียดซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ภาพ เสียง วีดิโอ ข้อมูล คือ ข้อเท็จจริงของสิ่งที่เราสนใจ ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ สิ่งของ หรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ดังนั้นการเก็บข้อมูลจึงเป็นการเก็บรวบรวมเกี่ยวกับข้อเท็จจริงของสิ่งที่เราสนใจนั่นเอง ข้อมูลจึงหมายถึงตัวแทนของข้อเท็จจริง หรือความเป็นไปของสิ่งของที่เราสนใจ




อย่างไรก็ดี ข้อมูลข้อมูลที่รวบรวมไว้อาจไม่ให้รายละเอียดทั้งหมด เช่น ข้อมูลของนักเรียนคนหนึ่งที่โรงเรียนเก็บรายละเอียดเกี่ยวกับ ชื่อ ที่อยู่ บ้านเลขที่ ชื่อผู้ปกครอง บิดา มารดาเลขที่ใบสำเนาทะเบียนบ้านข้อเท็จจริงที่บันทึกไว้นี้ไม่อาจทำให้รู้จัก และเข้าใจนักเรียนผู้นี้ได้อย่างถ่องแท้ เพราะมีข้อมูลอย่างอื่นของนักเรียนที่ไม่ได้บันทึกไว้อีกมาก เช่น สีผม สีตา ตำหนิ ความสูง น้ำหนัก อาหารที่ชอบ วิชาที่ชอบ ในการดำเนินการใด ๆ จำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลเอาไว้ เช่น เมื่อนักเรียนสมัครเข้าโรงเรียนก็บันทึกประวัติไว้ มีการบันทึกการมาเรียนของนักเรียนทุกวัน บันทึกผลการเรียน ข้อมูลเหล่านี้จึงเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และนำมาใช้ประโยชน์ได้ในภายหลัง ในการดำเนินการทางธุรกิจจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลเอาไว้ใช้งาน เช่น ร้านค้าแห่งหนึ่งเก็บข้อมูลการขายสินค้าตลอดปีเอาไว้ เขาสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาศึกษาปริมาณการขายต่อเดือน สินค้าใดขายไม่ดี แนวโน้มการขายเป็นอย่างไร สินค้าตัวใดมียอดการขายตามเทศกาล หรือมีผลจากภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง

สารสนเทศ หมายถึงและถูกต้อง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ อยู่ในรูปแบบที่ใช้ได้ และจะต้อ ข้อมูลที่มีความหมาย ซึ่งสามารถนำไปใช้ประโยชน์ดังนั้นจึงหมายถึงข้อมูลที่ผ่านการประมวลผลด้วยวิธีการที่เหมาะสม งอยู่ในช่วงเวลาที่ต้องการ เช่น เมื่อต้องการไปใช้ในการวางแผน การขาย สารสนเทศที่ต้องการก็ควรจะเป็นรายงานสรุปยอดขายแต่ละเดือนในปีที่ผ่านมา

แหล่งที่มา : http://www23.brinkster.com/manyuse/Data_Inf.html

วันที่สืบค้น : 26 มิถุนายน 2551

--------------------------------------------------------------------------------------------------

ข้อ 4 (^ ^)


IC ย่อมาจาก Integrated Circuit หมายถึง วงจรรวม โดยการนำเอาไดโอด, ทรานซิสเตอร์, ตัวต้านทาน, ตัวเก็บประจุ และองค์ประกอบวงจรต่าง ๆ มาประกอบรวมกันบนแผ่นวงจรขนาดเล็ก ในปัจจุบันแผ่นวงจรนี้จะทำด้วยแผ่นซิลิคอน บางทีอาจเรียก ชิฟ (Chip) และสร้างองค์ประกอบวงจรต่าง ๆ ฝังอยู่บนแผ่นผลึกนี้ ส่วนใหญ่เป็นชนิดที่เรียกว่า Monolithic การสร้างองค์ประกอบวงจรบนผิวผลึกนี้ จะใช้กรรมวิธีทางด้านการถ่ายภาพอย่างละเอียด ผสมกับขบวนการทางเคมีทำให้ลายวงจรมีความละเอียดมากๆ สามารถบรรจุองค์ประกอบวงจรได้จำนวนมาก ความหนาแน่นขององค์ประกอบวงจร ที่บรรจุลงใน IC นี้ มีตั้งแต่หลายสิบตัวซึ่งเรียกว่า SSI (Small Scale Integrated) จนกระทั่งถึงหลายสิบล้านตัว ซึ่งเรียกว่า ULSI (Ultra Large Scale Integrated)


ข้อดีของ IC คือ ไอซีจะรวมวงจรที่ซับซ้อนเข้ามาเป็นวงจรเดียวกัน ทำให้มีขนาดเล็กลง ซึ่งจะทำให้เครื่องอิเล็กทรอนิกส์มีขนาดเล็กและเบาลงมาก วงจรในเครื่องจะถูกแบ่งเป็นบล็อกที่มีหน้าที่หลักเฉพาะ วงจรในแต่ละบล็อกจะถูกทำเป็น IC ทำให้การประกอบวงจรทั้งหมดทำได้ง่าย โดยเพียงต่อ บล็อกหรือ IC เหล่านี้เข้าด้วยกันเท่านั้น จึงทำให้การต่อสายน้อยลง จุดบัดกรีน้อยลง และจุดเสียที่จะเกิดก็น้อยลงด้วย การผลิต IC ชนิด Monolithic ซึ่งสร้างองค์ประกอบวงจรทั้งหมดลงบนแผ่นผลึกแผ่นเดียว ก็สามารถทำได้พร้อมกันหลายร้อยหลายพันตัวบนแผ่นผลึก เวเฟอร์ (Wafer) แผ่นเดียว โดยการสร้างแบบ IC ที่เหมือน ๆ กันลงบนแผ่นเวเฟอร์ทีเดียว แล้วจึงตัดแบ่งเป็น IC แต่ละตัวในภายหลัง ทำให้สามารถ ผลิต IC ได้เป็นจำนวนมากในเวลาเดียวกันและราคาของ IC ก็จะถูกลงมาก IC อาจจะยังไม่สามารถรวมเอาองค์ประกอบวงจร ทุกชนิดเข้ามาในตัวมัน ได้หมด วงจรที่มีองค์ประกอบของวงจรขนาดใหญ่ เช่น คอยล์ หรือ ทรานซิสเตอร์ตัวใหญ่ที่ใช้ในการขับกระแสขนาดใหญ่ก็ยังต้องนำมาต่อที่ด้านนอก ของ IC อีกครั้งเพื่อให้วงจรทั้งหมดทำงานได้อย่างถูกต้อง
IC แต่ละตัวจะมีพื้นที่ในการสร้างวงจรประมาณ 20-200 ตารางมิลลิเมตร บน ICนี้จะรวมเอาไดโอด, ทรานซิสเตอร์, ตัวต้านทาน, ตัวเก็บประจุ บีบ รวม กันบนพื้นที่ขนาดเล็ก ๆ นี้จำนวนองค์ประกอบของวงจรจะเพิ่มขึ้นตามการพัฒนาของเทคโนโลยี ถ้าจำนวนองค์ของวงจรจะเพิ่มขึ้นตามการพัฒนาของ เทคโนโลยี ถ้าจำนวนของวงจรมีจำนวนตั้งแต่ 1,000 ถึง 100,000 ตัว ก็เป็น LSI ถ้าจำนวนตั้งแต่ 100,000 ถึง 10,000,000 ตัวก็เป็น VLSI ซึ่งเป็นได้แก่หน่วยความจำที่ใช้ในคอมพิวเตอร์ถ้าจำนวนมากกว่า 10 ล้านตัวก็เป็น ULSI

วีแอลเอสไอ <คำอ่าน>ย่อมาจาก very large scale integration (แปลว่า วงจรรวมความจุสูงมาก) หมายถึงการสร้างชิป (chip) โดยสามารถนำประตู (gate) มารวมกันได้ถึง 100,000 ประตูหรือมากกว่านั้น แล้วนำมาใช้เป็นตัวประมวลผล ทำให้คอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กลงได้มาก ในปัจจุบัน มีการสร้างชิปที่มีประตูมากยิ่งไป กว่านั้น เรียกว่า ULSI ( ultra large scale integraton หรือวงจรรวมความจุสูงยิ่ง)

แหล่งที่มา : http://student.sut.ac.th/comclub/Articles/Articles11/Ic.html

วันที่สืบค้น : 26 มิถุนายน 2551
--------------------------------------------------------------------------------------------------

ข้อ 5 \*0*/

-ใช้ในการทำงาน ที่ได้รับมอบหมายมา

-ใช้ศึกษาทางความรู้ในเรื่อง ที่สนใจต่าง ๆ เช่น Photoshop Flash8 อื่น ๆ

-ใช้เล่นเกมส์ออนไลน์

-ใช้คุยกับเพื่อน รุ่นพี่ อาจาร์ย

-ใช้ตรวจฉลากกินแบ่งรัฐบาล

วันที่สืบค้น : 26 มิถุนายน 2551

--------------------------------------------------------------------------------------------------


วันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2551

ครบรอบ 30 ปีอีเมล์ขยะ


"ครบรอบ 30 ปีอีเมล์ขยะ"

นายนพชัย ตั้งไตรธรรม ที่ปรึกษาทางเทคนิค บริษัท ไซแมนเทค คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่าน มา ถือเป็นการครบรอบ 30 ปี ของการเกิดอีเมล์ขยะ ซึ่งจำนวนอีเมล์ขยะขยับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จากรายงานของไซแมนเทค ระหว่างเดือนเมษายนที่ผ่านมา 80 เปอร์เซ็นต์ของอีเมล์ที่เข้ามาในระบบทั้งหมด เป็นเมล์ ขยะมีอัตราเติบโตประมาณ 87 เปอร์เซ็นต์

ส่วนในเดือนพฤษภาคมเฉลี่ยอยู่ที่ 80 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้บรรดาสแปมเมอร์ (Spammer) หันมาให้ความสนใจกับวิธีการล่อลวงแบบใหม่ ที่อ้างอิงแหล่งที่มาที่น่า เชื่อถือ อย่างเช่น อีเมล์ขยะประเภทฟิชชิ่งสำหรับหมายศาลเรียกตัว หรือ อีเมล์ขยะประเภทคัดเลือกนักแสดงประกอบ หากเหยื่อตกหลุมพรางก็จะเก็บข้อมูลส่วนตัว และนำไปใช้ประโยชน์เพื่อการฉ้อฉลต่อไปในรายงานยังได้ระบุแนวโน้มสำคัญต่าง ๆ เพิ่มเติม
เช่น การตีกลับเมล์ขยะ ซึ่งข้อความตีกลับที่มีส่วน หัวเป็นข้อความปลอม มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น เหล่าบรรดาสแปมเมอร์ดึงชื่อเสียงของกูเกิลเพื่อการล่อลวง (Spammers “Google”the Google Brand) และการโจมตี ประเภท สเปียร์ ฟิชชิ่ง โดยอ้างหมายศาลเรียกตัว (Spear Phishing for a Subpoena) ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่แต่จะเน้นมุ่งโจมตีเฉพาะบุคคลและเฉพาะองค์กร และให้ระวังเหล่าสแปมเมอร์ส่งของขวัญทางโปรแกรมส่งข้อความด่วน (Beware of the Spammer Bearing Instant Messenger Gift)

แหล่งที่มา :
http://www.arip.co.th/


วันสืบค้น : 22 มิถุนายน 2551

__________________________________

ไข่อีสเตอร์ใน Firifox 3.0



" ภาพยนตร์ส่งตรงถึงบ้านผ่านอินเทอร์เน็ต"





Netflix และ LG ร่วมมือให้บริการภาพยนตร์ออนไลน์ผ่านอินเทอร์เน็ต
Netflix ผู้ให้บริการเช่าภาพยนตร์ออนไลน์ใหญ่ที่สุดในโลกร่วมมือกับ LG Electronics ผู้ผลิตเครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำจากเกาหลีประกาศความร่วมมือในการพัฒนาอุปกรณ์เซตทอปบ็อกซ์สำหรับผู้ใช้ตามบ้านสำหรับรับชมภาพยนตร์ และรายการต่างๆ แบบสตรีมมิงผ่านอินเทอร์เน็ตไปยังเครื่องรับโทรทัศน์ความละเอียดสูงหรือ HDTV โดยไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในการรับขมบริการส่งตรงความบันเทิงถึงบ้านแบบออนไลน์นี้จะใช้เทคโนโลยีที่ฝังอยู่ในเครื่องเล่นของ LG ที่จะวางตลาดครึ่งหลังของปี 2008 เทคโนโลยีที่ผสมผสานความยืดหยุ่นในการใช้งาน และ ความสะดวกสบาย
ความร่วมมือดังกล่าวได้รับแรงส่งเสริมจากจุดแข็งของ Netflix ที่ได้นำเสนอบริการแบบผสมผสาน หลายมิติ หรือ "hybrid" 7 ล้านรายได้รับชมภาพยนตร์ และรายการโทรทัศน์ได้ด้วยค่าบริการที่ต่ำ โดยผู้ชมสามารถรับชมภาพยนต์คุณภาพระดับความละเอียดสูง

แหล่งที่มา : http://www.arip.co.th/

วันสืบค้น :
22 มิถุนายน 2551